รหัสโปรโมชั่น NewWeb ซื้อเลย

18 ตุลาคม 2568

ความปลอดภัยในโรงงาน ปัจจัยสำคัญที่นายจ้างควรรู้

ความปลอดภัยในโรงงาน ปัจจัยสำคัญที่นายจ้างควรรู้

การทำงานในโรงงาน เป็นการทำงานภายใต้สถานที่ที่เต็มไปด้วยเครื่องจักร อุปกรณ์ และพนักงานจำนวนมาก ความปลอดภัยในโรงงาน จึงถือเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน หากขาดมาตรการด้านความปลอดภัยที่ดี ย่อมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สูญเสียทรัพย์สิน และกระทบต่อกำลังใจของพนักงาน ดังนั้น โรงงานทุกแห่งจึงควรตระหนักถึงการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงาน ทั้งในด้านการป้องกัน การอบรม และการจัดการที่เป็นระบบ เพื่อให้การทำงานราบรื่นและมั่นคงในระยะยาว

ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงแนวทางสร้างความปลอดภัยในโรงงาน ว่าการสร้างความปลอดภัยในการปฏิบัติงานมีอะไรบ้าง และมีสิ่งใดที่นายจ้างควรให้ความสำคัญ
 

สารบัญบทความ

ความปลอดภัยในโรงงาน คืออะไร ทำไมทุกองค์กรต้องมี

ความปลอดภัยในโรงงาน คือสภาพแวดล้อมของการทำงานโรงงานที่มีประสิทธิภาพ มีความถูกต้อง โดยจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของเครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึงสถานที่ทำงาน ที่ปราศจากความเสี่ยง จนเป็นสาเหตุให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ทรัพย์สิน หรือชีวิตของคนงาน 
 

ความปลอดภัยในโรงงาน สำคัญอย่างไร

ตรวจสอบความปลอดภัยในโรงงาน

สำหรับการทำงานโรงงานนั้น ความปลอดภัยในโรงงาน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ และควรคำนึงถึงอย่างยิ่ง ไม่ต่างจากผลผลิตที่ได้ เพราะความปลอดภัยในการทำงานจะช่วยส่งเสริมให้การทำงาน รวมถึงผลลัพธ์ของงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยความสำคัญของความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม มีดังนี้

  • ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน
  • ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล และการซ่อมบำรุงหลังเกิดเหตุ
  • สร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานมั่นใจ และมีกำลังใจในการทำงาน
  • ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร แสดงถึงความใส่ใจต่อบุคลากร
     

อุบัติเหตุในโรงงานมักเกิดจากอะไรบ้าง

การทำงานในโรงงาน

หากองค์กรไหนที่ละเลยต่อความปลอดภัยในโรงงาน อาจส่งผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และอันตรายต่อคนงาน ซึ่งสาเหตุที่มักทำให้เกิดอุบัติเหตุในโรงงาน มีดังนี้

  1. พนักงานไม่มีอุปกรณ์ป้องกันสวมใส่ขณะทำงาน
  2. ระบบการทำงานที่เร่งรีบ แข่งกับเวลา จนละเลยความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม
  3. สภาพของโรงงานที่ไม่ปลอดภัย เช่น โรงงานไม่สะอาด วางของไม่เป็นระเบียบ และอุปกรณ์เกิดการชำรุดเพราะขาดการตรวจสอบมานาน เป็นต้น
  4. ความประมาท ไม่รอบคอบของพนักงานที่ปฏิบัติงาน
  5. การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์โดยขาดความเข้าใจ ส่งผลให้ใช้เครื่องมือผิดวิธี จนก่อให้เกิดอันตราย
  6. การแต่งกายไม่เหมาะสม เช่น สวมใส่เครื่องประดับที่เป็นโลหะ จนเกิดอันตรายต่อการปฏิบัติงาน
  7. การทำงานในขณะที่สภาพร่างกายหรือจิตใจไม่พร้อม เช่น เกิดภาวะซึมเศร้า หรือเจ็บป่วยทางร่างกาย ที่ส่งผลให้ขาดสติ ทำงานได้ไม่เต็มที่ จนเกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงาน
     

แนวทางสร้างความปลอดภัยในโรงงาน มีอะไรบ้าง 

พนักงานโรงงาน

จากความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการสร้างความปลอดภัยในโรงงานนั้น เป็นสิ่งที่ทุกโรงงานควรให้ความสำคัญ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ซึ่งความปลอดภัยในโรงงาน 15 ข้อที่ทุกโรงงานควรให้ความสำคัญ มีดังนี้

  1. นายจ้างจะต้องจัดการและดูแลสถานที่ทำงานและลูกจ้างให้ถูกสุขลักษณะ มีความปลอดภัย โดยลูกจ้างก็ต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามที่นายจ้างกำหนด
  2. นายจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อค่าชดเชยของลูกจ้าง ในส่วนของค่าดำเนินการที่เกี่ยวกับความปลอดภัยที่กำหนดใน พ.ร.บ.
  3. นายจ้างจะต้องจัดทำเอกสาร รายงาน หรือคู่มือ ที่เกี่ยวข้องการมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงาน ซึ่งจะต้องผ่านการประเมิน หรือรับรองจากบุคคล หรือนิติบุคคล
  4. นายจ้างจะต้องดำเนินการจ้างเจ้าหน้าที่ บุคลากร หรือกลุ่มบุคคล มาทำหน้าที่สำหรับดูแลความปลอดภัยในระหว่างที่ดำเนินงานตามที่กฎกระทรวงกำหนด
  5. กรณีที่มีการทำงานภายใต้สภาพที่เสี่ยงต่อชีวิต สุขภาพ และสุขอนามัยของลูกจ้าง นายจ้างจะต้องแจ้งถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ให้กับพนักงานได้รับรู้ก่อนเสมอ รวมถึงมีการแจกคู่มือเพื่อทำความเข้าใจก่อนเริ่มงาน
  6. นายจ้างจะต้องมีการจัดการอบรมและให้ความรู้ต่อลูกจ้างทุกคนถึงความปลอดภัย มีสุขอนามัยที่ดีในการทำงาน
  7. หากมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องอุปกรณ์หรือย้ายตำแหน่งของลูกจ้าง นายจ้างจะต้องฝึกอบรม และให้ความรู้ก่อนเริ่มงานเสมอ
  8. นายจ้างจะต้องมีการติดป้ายสัญลักษณ์เพื่อเตือนถึงอันตราย รวมถึงติดป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยอย่างชัดเจน
  9. ลูกจ้างมีสิทธิและหน้าที่ในการสนับสนุนนายจ้าง เพื่อจัดสถานที่ทำงานหรือโรงงาน ให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เช่น การจัดการความสะอาดของโรงงาน
  10. หากลูกจ้างพบว่าเครื่องมือหรืออุปกรณ์เกิดการชำรุด ควรดำเนินการแจ้งนายจ้าง และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ทราบทันที
  11. นายจ้างจะต้องดำเนินการจัดการให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในขณะที่ทำงานภายในโรงงาน
  12. ลูกจ้างจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยตามที่โรงงานกำหนด
  13. ลูกจ้างจะต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตราย เช่น การวิ่งเล่น หยอกล้อ หรือทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมในโรงงาน จนเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ และปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยในโรงงานอย่างเคร่งครัด
  14. จัดการกับสารเคมีอย่างระมัดระวัง กรณีที่งานที่รับผิดชอบ ต้องสัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตราย นายจ้างควรมีการแยกสารเคมีให้ถูกประเภท และมีแผนรับมือหากสารเคมีรั่วไหล 
  15. ลูกจ้างจะต้องสามารถเตรียมความพร้อมต่อเหตุฉุกเฉิน เช่น การอบรมกรณีเกิดไฟไหม้ หรือเหตุไม่คาดฝันภายในโรงงาน เพื่อให้สามารถรับมือและแก้ไขได้อย่างถูกต้อง
     

8 วิธีเพิ่มความปลอดภัยในโรงงาน ให้ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ

การทำงานในโรงงานเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และประสิทธิภาพของการผลิต ดังนั้น การสร้างมาตรการด้านความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่นายจ้างและพนักงานทุกคนไม่ควรมองข้าม โดยวิธีสร้างความปลอดภัยในโรงงานที่นายจ้างควรให้ความสำคัญ มีดังนี้
 

1. ประเมินความเสี่ยง

ขั้นตอนแรกในการสร้างความปลอดภัยในโรงงานคือ นายจ้างจะต้องประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ภายในโรงงาน เพื่อให้ทราบว่ามีพื้นที่หรือจุดไหนบ้างที่อาจเป็นอันตรายในโรงงาน และดำเนินการบำรุง แก้ไขได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินของโรงงานจากเหตุไม่คาดฝัน เมื่อพื้นที่ในโรงงานมีความเสี่ยงน้อยลง ก็จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในระยะยาว
 

2. ใส่ใจความสะอาด

ความสะอาดถือว่าเป็นอีกปัจจัยสำคัญต่อความปลอดภัย เพราะหากสถานที่ทำงานหรือภายในโรงงานไม่เป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำหก หรือวางข้าวของที่ไม่เป็นที่ อาจทำให้พนักงานเกิดล้ม สะดุด หรือเกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าชำรุด จนเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของโรงงานได้ ดังนั้นโรงงานที่ดีและปลอดภัย จะต้องมีการจัดการพื้นที่ที่สะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นระบบชัดเจนมากยิ่งขึ้น
 

3. ตรวจเช็กกลไกป้องกันของเครื่องจักร

ในการทำงานที่ต้องใช้เครื่องจักร นายจ้างและพนักงานที่รับผิดชอบจะต้องตรวจสอบกลไกการทำงานของระบบป้องกันของเครื่องจักรก่อนใช้งานทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะตรงตามหลัก Safety ในโรงงาน และลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องจักรที่ทำงานขัดข้อง 
 

4. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งที่ทำงาน

ในส่วนของพนักงานหรือนายจ้างที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร ควรจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลา เนื่องจากอุปกรณ์ป้องกันจะช่วยลดอาการบาดเจ็บร้ายแรงจากอุบัติเหตุลงได้ ทั้งนี้ อุปกรณ์ที่นายจ้างเลือกใช้จะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน PPE (Personal Protective Equipment) ไม่ว่าจะเป็น หมวกนิรภัย ถุงมือ หรือชุดป้องกัน เป็นต้น
 

5. เรียนรู้การใช้เครื่องจักรให้ถูกต้อง

เนื่องจากในแต่ละโรงงานนั้นเต็มไปด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์มากมาย ซึ่งมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันไป นายจ้างจึงควรแจกจ่ายคู่มือ และสอนวิธีการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ ให้พนักงานรับรู้ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และยังเป็นการป้องกันโอกาสสั่งการผิดพลาด จนทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างดำเนินการ จนทำให้เครื่องมือชำรุด หรือเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้
 

6. ไม่วางสิ่งของขวางทางออกฉุกเฉิน

หากในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันภายในโรงงาน เช่น ไฟไหม้เครื่องจักร จนทำให้ต้องอพยพพนักงานออกจากพื้นที่ ควรจะต้องมีการเคลียร์พื้นที่ทางออกฉุกเฉินให้ทุกคนสามารถออกจากโรงงานได้รวดเร็วที่สุด ไม่ควรมีสิ่งของวางกั้นบริเวณดังกล่าว เพราะอาจทำให้การเคลื่อนย้ายล่าช้า และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตมากขึ้น
 

7. หมั่นฝึกอบรมพนักงานถึงความปลอดภัย

ความปลอดภัยของการปฏิบัติงานจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่มีความรู้ความเข้าใจถึงความปลอดภัยและการรับมือต่าง ๆ อย่างเพียงพอ นายจ้างจึงควรมีการจัดอบรมให้ความรู้ต่อพนักงานอย่างเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าใจวิธีการทำงานที่ปลอดภัย สามารถใช้เครื่องจักรได้ถูกต้อง ระมัดระวัง รวมถึงมีสติ และพร้อมรับมือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น 
 

8. รายงานและสืบหาสาเหตุอย่างละเอียด

ความปลอดภัยในโรงงานจะเกิดขึ้นได้นั้น นอกจากการสร้างระบบความปลอดภัยในโรงงาน และความสะอาดของเครื่องมือแล้ว นายจ้างควรให้มีการรายงานเหตุการณ์ความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหากมีการเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว ควรมีการสืบสวน และหาสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
 

ความปลอดภัยในโรงงาน เรื่องที่นายจ้างไม่ควรมองข้าม

จากแนวทางด้านความปลอดภัยในโรงงานที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการดูแลและปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กร เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับพนักงานและคู่ค้า ทั้งนี้ หากโรงงานต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมความปลอดภัย สามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพได้ที่ naradeeSTORE ซึ่งได้รวบรวมอุปกรณ์ดูแลและปกป้องทรัพย์สินที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็น ตู้เซฟนิรภัย และกุญแจมาสเตอร์ล็อคคุณภาพสูง

โดยอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยที่แนะนำสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม คือ กุญแจนิรภัย LOTO (Lockout Tagout) ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการป้องกันการเปิดใช้งานเครื่องจักรโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ยังมีกุญแจนิรภัยในอุตสาหกรรมหลายกลุ่มให้เลือกใช้ตามลักษณะงาน เช่น กุญแจล็อกสำหรับไฟฟ้า (Electrical Lockout Padlock), กุญแจล็อกสำหรับวาล์ว (Valve Lockout), และกุญแจล็อกสำหรับกลไกเครื่องจักร (Mechanical Lockout) ที่ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในสภาวะต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร มีวัสดุแข็งแรงทนต่อการใช้งานหนัก ช่วยสร้างความปลอดภัยในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และลดการเกิดอันตรายระหว่างการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

หากสนใจผลิตภัณฑ์จาก naradee STORE สามารถติดต่อได้ที่

สมัครสมาชิก

Icon Phone Icon Mail Icon Line
เพิ่มไปยังตะกร้า