4 กรกฎาคม 2568
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ “การปกป้องทรัพย์สินขององค์กร” จึงมีความสำคัญต่อเป้าหมาย ความสำเร็จ และความยั่งยืน การตระหนักถึงความเสี่ยง และภัยคุกคาม รวมทั้งมาตรการป้องกันภัยที่มีประสิทธิภาพ จึงถือเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถมองข้ามได้
บทความนี้ จะนำเสนอถึงความสำคัญของการปกป้องทรัพย์สินในระดับองค์กรโดยเฉพาะในประเทศไทย เพื่อให้เราเข้าใจสถานการณ์ในหลายมิติ และตระหนักถึงภัยที่ธุรกิจต่างๆ อาจต้องเผชิญ
การปกป้องทรัพย์สินขององค์กร ไม่ได้เป็นเพียงแค่การป้องกันการสูญเสีย แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจในความต่อเนื่องทางธุรกิจ การรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุน และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับต่างๆ ที่ดำเนินงานภายใต้สภาวะทางกฎหมาย การกำกับดูแล และสภาวะตลาดที่มีลักษณะเฉพาะตัวนั้น
ย่อมต้องมีมาตรการที่เข้มงวดในการดูแล และป้องกันทรัพย์สินต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ทั้งเหตุการณ์ทั่วไป และภัยธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ที่จะช่วยเสริมทั้งในแง่ของวิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์ และทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน
อัคคีภัยเป็นภัยคุกคามที่สำคัญอันดับต้นๆ สำหรับธุรกิจในประเทศไทย รายงานจาก Allianz Risk Barometer ประจำปี 2568 ระบุว่า “อัคคีภัยและการระเบิดเป็นข้อกังวลอันดับหนึ่งสำหรับธุรกิจในประเทศไทย” (โดยขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 4 ในปี 2567”
โดยความรุนแรงนี้ อาจทำให้งานหยุดทำ ธุรกิจต้องหยุดชะงัก และการซ่อนแซมโรงงานเสียหาย อาจใช้เวลานานหลายปี กว่าจะกลับมาดำเนินการได้เต็มศักยภาพ
ประเทศไทยถูกจัดอยู่ใน “กลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงจากอุทกภัยสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก” โดยอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือแม้แต่เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นล่าสุดในปี 2567 ยังก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อุทกภัยยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ และส่งผลกระทบต่อเศษฐกิจ และการทำธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลในเชิงสถิติที่เฉพาะเจาะจงที่กระทบต่อธุรกิจในประเทศไทย แต่เหตุการณ์ การยักยอกทรัพย์สิน ยังเป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยตามหน้าสื่อต่างๆ
ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยต่อการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต
SentrySafe เริ่มต้นในปี 1930 ที่เมือง Rochester, New York โดย John Brush Sr. และ Willard Punnett ภายใต้ชื่อ “Brush-Punnett Company” ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการผลิตตู้เซฟเหล็กด้วยกระบวนการปั๊มขึ้นรูป (stamping/press-forming)
จากนั้นเริ่มประสบความสำเร็จ และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เมื่อบรรลุข้อตกลงจากผลิตตู้เซฟให้กับ Vassar College และแท่นวางเหล็กให้กับ Eastman Kodak
ก่อนจะทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Sentry Group ในปี 1987 เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ “Sentry” ให้มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
ภายใต้รากฐานการดำเนินกิจการแบบธุรกิจครอบครัวนั้น SentrySafe สามารถเติบโตสู่การเป็นผู้นำด้านโซลูชันตู้เซฟกันไฟระดับโลก โดยมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายรวมกว่า 54–65 ประเทศ
ซึ่งในปี 2014 บริษัทถูกควบรวมโดย Master Lock ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Fortune Brands Innovations
โดยตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ SentrySafe ได้รับรางวัล และความไว้วางใจจากแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำ อาทิ Vendor of the Year จาก Lowe’s, Wal-Mart และ OfficeMax
ชื่อเสียงของ SentrySafe ได้รับการส่งต่อผ่านประสบการณ์ตรงของผู้ใช้งาน ซึ่งยืนยันถึงประสิทธิภาพ และความคุณสมบัติในการปกป้องเอกสารสำคัญ รวมทั้งทรัพย์สินอันมีค่า
เพื่อให้พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือต้องเผชิญกันสถานการณ์รุนแรง เช่น เหตุเพลิงไหม้
และเสียงตอบรับจากลูกค้านี้เอง ช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นที่องค์กรทั่วโลกมีต่อ SentrySafe ในฐานะผู้นำด้านความปลอดภัยเสมอมา
UL (Underwriters Laboratories) ก่อตั้งขึ้นในปี 1894 เป็นองค์กรอิสระในการทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยให้กับหลายอุตสาหกรรม
และมาตรฐานดังกล่าว ยังนับว่าเป็นการรับรองที่น่าเชื่อถือที่สุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เซฟ ซึ่งยืนยันว่า “ผลิตภัณฑ์ได้ผ่านกระบวนการทดสอบที่เข้มงวด รวมถึงการทดสอบความทนทานต่อไฟ การทดสอบอันตรายจากการระเบิด และการทดสอบการกระแทก"
ทั้งนี้ UL ได้มีการจัดระดับความทนทานต่อเพลิงไหม้ไฟที่แตกต่างกัน เช่น
Class 350 สำหรับเอกสารกระดาษ ซึ่งหมายถึง ตู้เซฟสามารถรักษาอุณหภูมิภายในให้ต่ำกว่า 350 องศาฟาเรนไฮต์ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
ETL (Edison Testing Laboratories) เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ชื่อ “Intertek” ซึ่งเป็นที่การยอมรับด้านการทดสอบในระดับประเทศ (NRTL) และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ OSHA (Occupational Safety and Health Administration)
การรับรอง ETL แสดงให้เห็นว่า “ผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการทดสอบโดยละเอียด มีเอกสารรับรอง และมีการปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง”
โดยการรับรองนี้ เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ และนานาประเทศ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ และรับรองคุณสมบัติเฉพาะด้านอย่าง ความสามารถในการกันน้ำของตู้เซฟ ด้วย
ผลิตภัณฑ์ SentrySafe ได้ผ่านการทดสอบ และรับรองโดย UL และ ETL ในหลากหลายรุ่นผลิตภัณฑ์
เพื่อให้มั่นใจว่า “เป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดด้านการป้องกันไฟ และความปลอดภัย” ช่วยเติมเต็มอัตลักษณ์ของความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพในการปกป้องทรัพย์สินอันมีค่าจากภัยคุกคามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ น้ำท่วม หรือการโจรกรรม
เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถเลือกตู้เซฟ SentrySafe ได้ตรงกับความต้องการให้ได้มากที่สุด
เราได้คัดสรรรุ่นยอดนิยมที่มีคุณสมบัติโดดเด่น เพื่อเป็นแนวทางในการค้นหาให้กับทุกประเภทธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานทั่วไป ร้านค้า อุตสาหกรรม หรือองค์กรที่มีมาตรการด้านความปลอดภัย
สำหรับธุรกิจยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันเอกสาร และอุปกรณ์ดิจิทัลจากอัคคีภัย (หรืออุทกภัย)
รุ่นแนะนำ: SFW205UPC, SFW123GTC
คุณสมบัติเด่น
กันไฟสูงสุด 1 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 1850°F (UL Certified)
กันน้ำได้ 24 ชั่วโมงในระดับ 8 นิ้ว (ETL Verified)
โครงสร้างเหล็กกล้า แข็งแกร่ง ทนทาน
มีทั้งแบบดิจิทัล และรหัสหมุน
แถบบานพับป้องกันการงัดแงะ
เหมาะกับการจัดเก็บเอกสารสำคัญ อุปกรณ์ดิจิทัล และทรัพย์สินมีค่า
รุ่นแนะนำ: X055, X125, LX110BE
คุณสมบัติเด่น
ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย
มีระบบล็อคที่ให้เลือกหลากหลาย
ป้องกันการงัดแงะ
บางรุ่นได้รับการรับรองมาตรฐาน California DOJ
รุ่นแนะนำ: CHW30300, 1160, H0100
คุณสมบัติเด่น
น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
มีทั้งรุ่นที่สามารถป้องกันไฟ และน้ำได้
เหมาะสำหรับการใช้งานด้านเอกสาร และมีการเคลื่อนย้ายอยู่บ่อยครั้ง
รุ่นแนะนำ: QAP1BE, QAP2BLX
คุณสมบัติเด่น
การรับรองมาตรฐาน California DOJ
ระบบล็อคไบโอเมตริกซ์ (สแกนลายนิ้วมือ)
เข้าถึงรวดเร็วในสถานการณ์ฉุกเฉิน
โครงสร้างเหล็กทนทาน ป้องกันการเจาะหรืองัดแงะ
เหมาะกับธุรกิจด้านความปลอดภัย ร้านจำหน่ายอาวุธ หรือหน่วยงานราชการ
รุ่นแนะนำ: S6370, S7771
คุณสมบัติเด่น
ความจุขนาดใหญ่ จัดเก็บเอกสารได้หลายประเภท และเป็นระเบียบ
คุณสมบัติกันไฟ (ตามรุ่นที่ระบุ)
ระบบล็อคสองชั้น: รหัสหมุนกับกุญแจ หรือ ดิจิทัลกับกุญแจ
เหมาะสำหรับโรงแรม บริษัทบัญชี หรือหน่วยงานราชการ
รุ่นแนะนำ: DH-134E, UC-039K
คุณสมบัติเด่น
มีช่องรับเงินโดยไม่ต้องเปิดตู้
ระบบล็อคดิจิทัลป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตามรุ่นที่ระบุ)
ดีไซน์ป้องกันการเจาะ หรือการงัดแงะ
เหมาะกับร้านค้า ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจที่มีเงินสดหมุนเวียนสูง เช่น ปั๊มน้ำมัน
นวัตกรรม และการออกแบบที่ให้ความสำคัญบนความปลอดภัยสูงสุด คือ หนึ่งในเบื้องหลังความไว้วางใจขององค์กรทั่วโลกตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นระบบล็อค วัสดุที่ใช้ในการผลิต หรือคุณสมบัติการป้องกันจากภัยต่างๆ
ความยืดหยุ่นในการเลือกระบบล็อค เป็นหนึ่งในจุดเด่นของตู้เซฟ SentrySafe ที่แตกต่าง ช่วยให้ตอบโจทย์ได้ตั้งแต่ในระดับองค์กรไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป
ระบบล็อคดิจิทัล: แป้นพิมพ์ตั้งรหัสได้ ปรับรหัสได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานหลายคน
ระบบไบโอเมตริกซ์ (ลายนิ้วมือ): ปลดล็อคได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือรหัส เหมาะสำหรับตู้เซฟกันไฟ หรือเซฟเก็บปืน (สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน)
ระบบรหัสหมุน: ระบบล็อคแบบคลาสสิกที่ให้ความน่าเชื่อถือสูง
ระบบกุญแจ (Key Lock): ใช้งานง่าย เหมาะใช้เป็นระบบล็อคหลัก หรือสำรอง
ระบบล็อคสองชั้น: สามารถใช้ได้ทั้งแบบรหัสและกุญแจ เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัย
บริษัท นาราดี เทรดดิ้ง จำกัด คือ ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายตู้เซฟ SentrySafe อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยได้รับความไว้วางใจจากทั้งในระดับองค์กร และผู้ใช้งานทั่วไปมาอย่างยาวนาน
พร้อมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ การเลือกสินค้าให้เหมาะกับลักษณะธุรกิจ และการดูแลหลังการขายอย่างครอบคลุม
Q1: ตู้เซฟ SentrySafe กันไฟได้จริงหรือไม่?
A: ได้จริงครับ ตู้เซฟ SentrySafe ผ่านการรับรองจาก UL (Underwriters Laboratories) ซึ่งทดสอบการทนไฟในระดับต่างๆ เช่น 30 นาที, 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง โดยสามารถรักษาอุณหภูมิภายในให้ต่ำกว่า 350°F แม้ในอุณหภูมิภายนอกที่สูงถึง 1850°F
Q2: ตู้เซฟ SentrySafe กันน้ำได้ด้วยหรือไม่?
A: ใช่ครับ ตู้เซฟรุ่นที่ผ่านการรับรองจาก ETL (Intertek) สามารถกันน้ำได้ในระดับความลึก 12 นิ้ว และนานสูงสุดถึง 72 ชั่วโมง เหมาะสำหรับสถานการณ์น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุน้ำรั่วในอาคารสำนักงาน
Q3: ธุรกิจแบบใดที่เหมาะกับการใช้ตู้เซฟ SentrySafe?
A: SentrySafe มีหลายรุ่นที่ตอบโจทย์หลากหลายธุรกิจ เช่น
ร้านค้า/ค้าปลีก: รุ่นแคชเชียร์ มีช่องรับเงิน ป้องกันการเข้าถึง
องค์กรขนาดใหญ่: รุ่นล็อคสองชั้น ลดความเสี่ยงทางทุจริต ความจุสูง
ผู้ครอบครองอาวุธ: รุ่นเก็บปืน มีล็อคไบโอเมตริกซ์
ผู้ใช้งานทั่วไป: รุ่นขนาดเล็ก/กลาง และรุ่นหิ้วกันไฟ
Q4: ระบบล็อคของ SentrySafe มีแบบใดบ้าง?
A: SentrySafe ออกแบบระบบล็อคที่หลากหลายเพื่อรองรับทุกความต้องการ เช่น
ล็อคดิจิทัล (ตั้งรหัส)
ล็อคไบโอเมตริกซ์ (ลายนิ้วมือ)
รหัสหมุน
กุญแจ
ล็อคสองชั้น (ผสมรหัสกับกุญแจ)
Q5: จะมั่นใจได้อย่างไรว่าตู้เซฟ SentrySafe เป็นของแท้?
A: เลือกซื้อผ่าน Naradee.com ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย รับประกันสินค้าแท้ 100% พร้อมบริการหลังการขาย และการรับประกันสินค้าบางรุ่นในกรณีเกิดไฟไหม้
Q6: หากตู้เซฟเสียหายจากไฟไหม้ มีการรับประกันหรือไม่?
A: มีครับ SentrySafe มีโปรแกรมพิเศษ “After-fire Replacement Program” สำหรับบางรุ่น ซึ่งสามารถเปลี่ยนสินค้าใหม่ได้หากเกิดความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ (ตามเงื่อนไข)
Q7: ตู้เซฟ SentrySafe เหมาะกับการจัดเก็บสื่อดิจิทัลหรือไม่?
A: เหมาะมากครับ บางรุ่นถูกออกแบบเพื่อรองรับ ฮาร์ดดิสก์, แฟลชไดรฟ์, และแผ่น CD/DVD โดยมีระบบดูดซับความร้อนภายในเพื่อปกป้องข้อมูลไม่ให้เสียหาย
เก็บรักษาเอกสารสำคัญของบริษัท ปลอดภัยด้วยโครงสร้างจากเหล็กและคุณสมบัติกันไฟ
฿79,900
฿99,900
฿20000
สำหรับเก็บเงินสดและทรัพย์สินมีค่า สะดวกทุกการใช้งาน
฿24,900
฿30,900
฿6000
พร้อมกับฟังก์ชั่นเสียงแจ้งเตือนหากถูกเคลื่อนย้าย
฿37,900
฿51,900
฿14000
เหมาะสำหรับเก็บของมีค่า แล็ปท็อป (มีช่องสำหรับสายชาร์จ) และอาวุธปืน
฿6,700
฿8,700
฿2000