การเก็บรักษาสิ่งของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เพียงแค่เก็บไว้ในที่ลับตานั้นเพียงพอหรือไม่? สิ่งที่จะช่วยตอบโจทย์การเก็บรักษาของสำคัญได้ก็คือนวัตกรรมที่เรียกว่า “ตู้เซฟนิรภัย” ตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถเก็บรักษาของสำคัญไว้ได้อย่างปลอดภัย ทั้งการโจรกรรม และจากอุบัติภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม มือใหม่หลายคนที่ต้องการตู้เซฟนิรภัยมาไว้ใช้งาน อาจยังไม่เชี่ยวชาญมากพอที่จะพิจารณาเลือกว่า ตู้เซฟแบบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเอง ดังนั้น ในวันนี้ Naradee จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักประเภทของตู้เซฟที่วางขายตามท้องตลาด พร้อมแนะนำวิธีพิจารณาเลือกซื้อตู้เซฟให้เหมาะกับการใช้งาน จะเป็นอย่างไรไปติดตามอ่านกันได้เลย
ในปัจจุบันมีการจัดจำหน่ายตู้เซฟนิรภัยในท้องตลาดหลายประเภท ซึ่งหลายคนอาจจำแนกประเภทของตู้เซฟจากขนาดบ้าง การใช้งานบ้าง หรือฟังก์ชันเสริมบ้าง โดยภาพรวมแล้วเราสามารถแบ่งประเภทของตู้เซฟนิรภัยออกเป็น 9 ประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
ตู้เซฟระบบล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือ โดยมาตรฐานทั่วไปจะต้องสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ไม่น้อยกว่า 30 ลายนิ้วมือ เป็นตู้เซฟที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้งานเปิด-ปิด ตู้เซฟอยู่เป็นประจำ จะสามารถปลดล็อกตู้เซฟได้อย่างรวดเร็วผ่านการสแกนลายนิ้วมือโดยตรง
ตู้เซฟประเภทนี้จะนิยมใช้งานในโรงแรม เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถเก็บรักษาสิ่งของมีค่าในระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวได้ ไม่ว่าจะเป็น เงินสด สร้อยคอ แหวน หรือนาฬิกา เป็นต้น ความโดดเด่นของตู้เซฟโรงแรม จะมีระบบ Master Code หรือ C.E.U. สำหรับเชื่อมต่อกับช่อง USB เพื่อเปิดตู้เซฟในกรณีที่ผู้เข้าพักลืมรหัสผ่าน
สำหรับตู้เซฟแบบปุ่มกด จะมีระบบล็อกเป็นตัวเลขเรียกว่า Pin สามารถตั้งรหัสผ่านได้ตั้งแต่ 4-10 หลัก เป็นตู้เซฟที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจาก การตั้งรหัสผ่านนั้นไม่ยุ่งยาก ความปลอดภัยได้มาตรฐาน ในขณะเดียวกันก็สามารถปลดล็อกรหัสผ่านได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต่างจากตู้เซฟรูปแบบอื่น ๆ
ตู้เซฟประเภทใช้รหัสหมุน และกุญแจ มีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างมากก็คือไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน แต่ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี เป็นที่นิยมไม่ต่างจากตู้เซฟประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถเก็บของได้เป็นจำนวนมาก และมีระยะเวลาในการใช้งานยาวนานมาก บางแบรนด์อาจใช้งานได้นานถึง 10 ปีเลยด้วยซ้ำ
ประเภทตู้เซฟแบบลิ้นชัก จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่น สามารถช่วยให้เราจำแนกหมวดหมู่ของมีค่าที่ต้องการจะเก็บรักษาได้เป็นระเบียบ โดยส่วนใหญ่จะมีลิ้นชักมาให้ประมาณ 3-4 ชั้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานตู้เซฟนิรภัย เพื่อเก็บรักษาของมีค่าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เงินสด ทองคำ เพชร หรือเอกสารสำคัญ เป็นต้น
ตู้เซฟประเภท Super Safe ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ควบคู่กับตู้ ATM ของแต่ละธนาคาร เนื่องจาก มีน้ำหนักมากกว่าตู้เซฟทั่วไป 30-40% เลยทีเดียว อีกทั้งยังทำมาจากวัสดุที่ทนทานแข็งแรง ยากต่อการทุบทำลาย เมื่อรวมกับคุณสมบัติเรื่องน้ำหนักมาก จึงทำให้เกิดโอกาสถูกโจรกรรมน้อยกว่าตู้เซฟแบบอื่น ๆ เพราะมีความปลอดภัยสูง
สำหรับตู้เซฟเก็บปืน จะมีขนาดแยกย่อยต่างกันไปตามความต้องการใช้งาน โดยมีขนาดตั้งแต่ตู้เซฟเล็ก สำหรับเก็บปืนพกไม่เกิน 2 กระบอก ไปจนถึงตู้เซฟขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บปืนขนาดยาว อย่าง ปืนลูกซองได้ ซึ่งคุณสมบัติของตู้เซฟเก็บปืนที่ดี ต้องควบคุมความชื้นในตู้เซฟได้ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ปืนเป็นสนิม
ตู้เซฟแบบ 2 บานประตู เป็นตู้เซฟสำหรับเก็บของขนาดใหญ่ มีพื้นที่ให้เก็บของค่อนข้างมาก แยกเป็นชั้นบน และชั้นล่าง ใครที่มีของมีค่าจำนวนมากก็สามารถนำมาเก็บไว้ในตู้เซฟประเภทนี้รวมกันได้เลย เพราะมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ทุบทำลายยาก ลดโอกาสถูกโจรกรรมของมีค่าภายในตู้เซฟได้เป็นอย่างดี
ตู้เซฟประเภทบานประตูเซฟ โดยทั่วไปแล้วจะใช้กับห้องนิรภัยในธนาคาร หรือร้านทอง เพราะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ทำลายได้ยาก อีกทั้งภายในตู้เซฟก็ยังมีพื้นที่สำหรับเก็บรักษาของสำคัญได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย
เมื่อรู้แล้วว่าประเภทของตู้เซฟมีแบบไหนให้เลือกใช้งานบ้าง คราวนี้ Naradee ก็จะมาแนะนำเทคนิคในการเลือกซื้อตู้เซฟมาใช้งานกันบ้าง สำหรับผู้ที่มีสิ่งของมีค่า และต้องการเก็บรักษาให้ปลอดภัย สามารถพิจารณาคุณสมบัติของตู้เซฟก่อนซื้อมาใช้ได้ ดังนี้
ขั้นตอนแรกในการเลือกซื้อตู้เซฟนิรภัยให้พิจารณาจากขนาดของตู้เซฟก่อน โดยดูจากความต้องการใช้งานว่า จะเก็บรักษาของมีค่าประเภทใดบ้าง หากต้องการเก็บเงินสด ชุดเครื่องประดับ หรือพระเครื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตู้เซฟขนาดใหญ่ แต่ถ้าต้องการเก็บปืน หรือแฟ้มเอกสาร อาจต้องเลือกตู้เซฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เพื่อให้รูปทรงของตู้เซฟเก็บสิ่งของมีค่าได้พอดี
ไม่ว่าจะเป็น ตู้เซฟน้ำหนักเบา หรือน้ำหนักมาก ล้วนมีข้อดีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล หากมีความจำเป็นที่ต้องเคลื่อนย้ายที่ตั้งตู้เซฟอยู่บ่อยครั้ง อาจจะต้องหันมาใช้งานตู้เซฟขนาดเล็ก แต่ถ้าหากต้องการป้องกันการถูกโจรกรรมโดยการเคลื่อนย้าย ก็แนะนำว่าควรซื้อตู้เซฟขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่มาใช้งานจะดีกว่า
ระบบล็อกของตู้เซฟนิรภัย ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานสะดวกแบบไหน หากเป็นการล็อกแบบรหัสหมุน หรือรหัสตัวเลข ผู้ใช้งานก็จำเป็นที่จะต้องจำรหัสเหล่านั้นให้ได้ หรือถ้าหากสะดวกใช้งานแบบรหัสกดดิจิทัลมากกว่า ก็อย่าลืมตรวจสอบการจ่ายพลังงานจากแบตเตอรี่อยู่เสมอ หรือถ้าเลือกใช้ระบบล็อกแบบสแกนลายนิ้วมือ จะเพิ่มความสะดวกสบายในการปลดล็อกได้มากขึ้น
ตู้เซฟโดยทั่วไปแล้วอาจไม่มีคุณสมบัติกันไฟกันน้ำ ยกเว้นตู้เซฟที่ทางผู้จัดจำหน่ายระบุไว้ชัดเจน ว่าสามารถกันไฟ กันน้ำ และกันความร้อนได้ โดยจะต้องกันไฟได้ตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป และสามารถป้องกันน้ำ อย่าง อุทกภัยได้นานถึง 72 ชั่วโมง ผ่านการทดสอบจากหน่วยงาน ETL สหรัฐอเมริกา ซึ่งราคาของตู้เซฟประเภทนี้อาจจะสูงกว่าตู้เซฟนิรภัยทั่วไป แต่ช่วยลดโอกาสที่ของสำคัญในตู้เซฟ จะได้รับความเสียหายจากอัคคีภัยแล้วก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ฟังก์ชันเพิ่มเติมของตู้เซฟ เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วย ก่อนตัดสินใจซื้อตู้เซฟมาใช้งาน โดยฟังก์ชันเสริมอาจเป็นตะขอสำหรับแขวนที่ติดตั้งมาไว้ภายในตู้เซฟ ระบบกันความชื้น ป้องกันของมีค่าที่ทำจากโลหะเกิดสนิม หรือจะเป็นการบุนวมภายในตู้เซฟ เพื่อป้องกันของมีค่าที่มีน้ำหนักมากกระแทกกับผนังของตู้เซฟ เป็นต้น
สำหรับการให้บริการของผู้จัดจำหน่ายตู้เซฟนิรภัย อาจเป็นตัวตัดสินชี้ชะตาก็ได้ว่าซื้อตู้เซฟมาใช้งานดีหรือไม่ โดยบริการจากผู้ขายในเบื้องต้นจะต้องสอนวิธีการใช้งานตู้เซฟ และวิธีการปลดล็อกฉุกเฉิน ในกรณีที่การปลดล็อกปกติไม่สามารถทำได้ หรือบริการเปลี่ยนกุญแจสำรองตู้เซฟในกรณีที่ทำหาย รวมไปถึงการให้คำปรึกษาที่ครอบคลุมเกี่ยวกับตู้เซฟนั้น ๆ
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อควรรู้ก่อนซื้อตู้เซฟมาใช้งาน สำหรับใครที่สนใจต้องการซื้อตู้เซฟมาเก็บรักษาสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ขอแนะนำแบรนด์ตู้เซฟ SentrySafe จากทาง Naradee เนื่องจาก เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าตู้เซฟที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล ผ่านการทดสอบความแข็งแรงจากหน่วยงานชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา หากสนใจ หรือต้องการติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าตู้เซฟก็สามารถติดต่อมาได้ที่
Line: @naradee
Website: Naradee.com
Product Category: SentrySafe
Shopee: Naradee Store
Lazada: Naradee Store
Inbox: Naradee Store