รหัสโปรโมชั่น
NewWeb
ซื้อเลย

20 กันยายน 2565

HG Tips เพื่อนคู่คิด พร้อมพิชิตหลังน้ำลด...

HG Tips เพื่อนคู่คิด พร้อมพิชิตหลังน้ำลด...

ตอบทุกโจทย์ หมดทุกปัญหา “เชื้อรา คราบน้ำ หรือตะไคร่สะสม” การเข้าทำความสะอาดอย่างรวดเร็วในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วง 48 ชม. แรก หลังจากมวลน้ำลดลง รวมกับการคัด แยกเฟอร์นิเจอร์จำพวกงานไม้ โซฟา พรม หรือวัสดุต่างๆ ที่มีความสามารถในการดูดซับน้ำได้เป็นอย่างดีออกจากพื้นที่ นอกจากจะช่วยลดความเสียหายที่มักเกิดขึ้นกับวัสดุ หรืออุปกรณ์ต่างๆ แล้ว ยังนับเป็นขั้นตอนสำคัญในการกำจัด เชื้อโรค และคราบสะสมต่างๆ โดยเฉพาะกับ “เจ้าตัวเชื้อรา” ที่มักเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอย่างร้ายแรง ซึ่งหนึ่งในจุดที่ไม่ควรพลาดก่อนการคลีนนิ่ง! เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายตัวของเชื้อราอย่างได้ผล คือ การกำจัดวง รัศมีตามรอยคราบ หรือแนวราดำที่มีการก่อตัวในบริเวณนั้นๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีคุณสมบัติใน การ “กำจัดเชื้อราดำ” ในระดับของสปอร์นั่นเอง จากนั้นจึงค่อยทำการพิจารณาถึงรอยคราบน้ำ หรือตะไคร่ โดยเฉพาะกับในพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับการท่วมขังของน้ำโดยตรง ทั้งในบริเวณของพื้นบ้าน หรือแนวกำแพงในแนวตั้ง ยิ่งมีการสะสมอยู่เป็นเวลานาน... ยิ่งต้องการวิธีการขจัดคราบให้ถึงในระดับของรูพรุน (porous) แม้ว่าโดยทั่วไป มักมีการแนะนำให้ใช้น้ำยาที่ผสมคลอรีน (chlorine bleach) ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำความสะอาด และการฆ่าเชื้อที่ดีแล้วก็จริง แต่ส่วนใหญ่กลับยังไม่ค่อยพบถึงข้อมูลในสิ่งที่เหล่า “คนรักษ์บ้าน” อยากทราบกัน ทั้งในเรื่องของการเกิดผลเสีย หรืออาจทำลายต่อวัสดุพื้นผิวใดๆ บ้างหรือไม่ หากความพรุน และลักษณะทางโครงสร้างของพื้นผิว กลับยังเป็นหัวข้อสำคัญให้คุณได้พิจารณาถึงวิธีการทำความสะอาดสำหรับเคสนี้... การใช้ผลิตภัณฑ์ภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นบ้านที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการขจัดคราบได้ลึกถึงในระดับของรูพรุน และยังคงรักษาสภาพทางโครงสร้างของวัสดุไว้ได้เป็นอย่างดีนั้น... ย่อมช่วยตอบทุกโจทย์ หมดทุกปัญหาของเรื่อง “เชื้อรา คราบน้ำ หรือตะไคร่สะสม” หลังน้ำลดได้นั่นเอง “HG พิชิตคราบหลังน้ำลด” - HG บาธรูม โมลด์ สเปรย์ ขนาด 500 มล. - HG เอ็กซ์ พาว คลีนเนอร์ ขนาด 1 ลิตร อ้างอิงข้อมูลจาก : www.fema.gov/pdf/rebuild/recover/ www.c-cure.com/doc/techBulletins/ www.floodsafety.com/national/property/cleanup/

เอชจี เอ็กซ์ พาว คลีนเนอร์ (#20)
เอชจี เอ็กซ์ พาว คลีนเนอร์ (#20)

ขจัดคราบสกปรกฝังแน่น หรือแว็กซ์เก่า น้ำยาเคลือบเงา และชั้นเคลือบป้องกันอื่น ๆ

฿555 ฿590 6%

ซื้อสินค้า
เอชจี บาธรูม โม สเปรย์
เอชจี บาธรูม โม สเปรย์

กำจัดคราบเชื้อราและคราบราดำในห้องน้ำ

฿371 ฿395 6%

ซื้อสินค้า

อ่านต่อ

ปัญหาคาใจ “ทำ ไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรก ง๊าย ง่าย”

20 พฤศจิกายน 2563

ปัญหาคาใจ “ทำ ไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรก ง๊าย ง่าย”
     “เอชจี มีครบ”จบปัญหาคาใจ“ทำไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรกง๊ายง่าย” 1. “คราบน้ำ -คราบสบู่” ที่เกาะแน่นติดกระจกและวัสดุต่างๆ 2. “คราบราดา” ที่เกิดขึ้นช้า ๆ ตามรองยาแนวและแนวซิลิโคน 3. ยังขัดล้างไปไมทันไร...ก็กลับเข้าวังวนนี้ใหม่ทั้งในข้อ 1 และข้อ 2
ซึ่งนั้นหาใช่เรื่องทีดูผิดแปลกแต่อย่างใด เพราะ...“หากการดูแลผิวพรรณที่ดี...มิได้จบลงเพียงแค่การ ฟอกสบู่ อยู่เช่นใด...ในเรื่องของ “ตู้อาบ
น้ำ” ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น! ”  1. “คราบนํ้า -คราบสบู่”  สู่การขจัดคราบในระดับรูพรุนแม้จะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าเจ้าคราบต่าง ๆ อันเกิดขึ้นได้จากทั้งการตกค้างการสะสมและการหมักหมมอยู่เป็นเวลานาน(บ้างทิ้งไว้เป็นสัปดาห์ บ้างก็ว่าเกือบแรมเดือน) จนมันระเหยแหงติดกับพื้นผิวของวัสดุอยู่ซ้ำ ๆ ยอมส่งผลให้สารประกอบทางเคมีที่ไม่ชอบน้ำบางชนิด เข้าไปติดลึกสะสมได้ถึงในระดับรูพรุน (porous) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การทำความสะอาดแบบที่เรียกว่า Deepcleaning นั้นอาจต้องถูกทำกันแบบซ้ำ ๆ วนอยูอยางนั้นหลายๆรอบ จึงจะสามารถลอกออก หรือขจัดคราบสกปรกเหล่านั้นได้อย่างหมดจด (สามารถสังเกตุเห็นได้จากคราบสบู่จนขึ้นฝ้าตามกระจกอาบนํ้าหรือแม้กระทั่งจากคราบขาวหินปูนที่บริเวณของหัวก๊อกนํ้านั่นเอง)       ดังนั้นการขจัดคราบต่าง ๆ ตามลักษณะที่ปรากฏ ตั้งแต่คราบท่ียังดูอ่อน ๆ จนกระทั่งคราบมีการติดสะสมฝังแน่นด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับระดับความเข้มข้น (ผสมกับนํ้าเปล่า)อย่าง“เอชจีบลู” นั้นนอกจากจะช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ได้อย่างหมดจดแบบตรงจุดได้แล้วยังมีคุณสมบัติในการไม่ไปทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนอีกด้วย (ซึ้งนํ้ายาทั่วไปอาจมีความรุนแรงจนไปทำลายในจุดนี้ได้) ส่วนบ้านใดที่มีการทำความสะอาด และดูแลสุขอนามัยภายในห้องนํ้าอย่างเป็นประจำอยู่แล้วการใช้งานร่วมกับ “เอชจี สเกล อะเวย์ ” ก็นับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะด้วยคุณสมบัติเฉพาะแบบโฟมสเปรย์นี่เอง ซึ่งนอกจากการใช้งานที่สะดวกแล้วยังเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับพื้นที่ในแนวตั้ง (ตัวผนังหรือตู้อาบนํ้า ) ทั้ง ยังเป็นเหตุผลสำคัญของการช่วยลดคราบหนักสะสมท่ีอาจเกิดข้ึนได้เป็นอย่างดีอีกด้วยและนับได้ว่าทั้ง 2 ตัวนี้ สามารถจัดเปนชุดพื้นฐานให้กับการทำความสะอาดคราบนํ้า คราบสบู่หรือคราบหินปูนต่าง ๆ ภายในห้องนํ้า โดยเฉพาะกับตู้อาบนํ้าและสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ในระดับของคราบที่ขจัดออกได้ยากนั่นเอง “เอชจี บลู”      + มีความเข้มข้นสูง (ผสมน้ำในอัตตราส่วน 1 ต่อ 10 )      + หากเจอคราบหนัก สามารถเพิ่มระดับความเข้มข้นได้ตามลักษณะของคราบที่ปรากฏ      + ใช้ได้กับทั้งคราบ คราบน้ำ คราบหินปูน คราบเหลืองสุขภัณฑ์      + ไม่ทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนของตูอ้าบน้ำ “เอชจี สเกล อะเวย์” + ด้วยขวดแบบสเปรย์ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ       + ด้วยคุณสมบัติของโฟมสเปรย์ จึงเหมาะกับพื้นท่ีในแนวตั้งอย่างแนวผนังหรือตู้อาบน้ำ + ช่วยลดการสะสมของคราบหนักได้เป็นอย่างดี       + ไม่ทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนของตูอ้าบน้ำ 2. “คราบราดำ” ภัยเงียบสุดสำคัญที่มักสะสมอยู่ตามร่องยาแนวและแนวซิลิโคน       จากข้อมูลทางการศึกษาเคยมีการตรวจพบว่า มีเจ้า "เชื้อราดำ" จำนวนรวมกว่า 40 สายพันธุ์บนโลกซึ่งนอกจากจะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ทั้งตามผนังห้องน้ำ ร่องยาแนว หรือตามห้องครัวแล้วยังพบว่าะวกมันมีการแพร่กระจายของสปอร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Toxic Black Mould" อันนับเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในบางกรณีได้เลยทีเดียว       จึงทำให้ในวงการขจัดคราบราดำในกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะในฝั่งของทางยุโรปที่พบเจอเชื้อราในกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำนั้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารในกลุ่ม Chlorine bleach หรือ"เอชจี โมลด์ สเปรย์" ซึ่งมีฤทธิ์ในการ "ฆ่า" (destoy) กลุ่มเชื้อราดังกล่าวได้ถึงในระดับของสปอร์ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้เพียงน้ำส้มสายชู หรือ เบคกิ้งโซดา เพราะจากการทดสอบของสารทั้งสองชนิดนี้กลับมีคุณสมบัติเพียงแค่การ "ยับยั้ง" (Inhibits) การแพร่กระจายของเจ้าเชื้อราดำเท่านั้นเอง 3. ยังขัดล้างไปไม่ทันไร...ก็กลับเข้าวังวลนี้ใหม่อีกแล้วหรอเนี๊ยยย!!!       หากเปรียบความหมองคล้ำ-คราบไคล เป็นดั่งคราบน้ำ-คราบสบู่ หรือการเกิดสิว ขึ้นฝ้าคล้ายดั่ง คราบหินปูนสะสม ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่เกิดจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ สะสม จนอาจเกิดการอุดตันฝังแน่นอยู่ในรูขุมขน (รูพรุน) ที่ยากจะดูแลได้       "หากการดูแลผิวพรรณที่ดี...มิได้จบลงเพียงแค่การฟอกสบู่ อยู่เช่นใด...ในเรื่องของ"ตู้อาบน้ำ"ก็คงเป็นเช่นนั้น!" จึงนับเป็นประโยคโปรยจากข้างต้น และดูตรงกับการนำไปสู่คำตอบสุดท้ายของในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การทาด้วยครีมโลชั่น หรือ "การเคลือบผิวให้กับวัสดุ"       เพราะไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการตกหล่น หรือการละเลยในขั้นตอนนี้ไปมากน้อยเพียงใดก็ย่อมส่งผลต่อพื้นผิวของวัสดุนั้น ๆ ให้กลับมาเป็นแหล่งสะสมของคราบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในบริเวณของตู้อาบน้ำ ผนังฉากกั้น หรือร่องยาแนวต่างๆ       ดังนั้น การปกป้องผิวพรรณให้กับตู้อาบน้ำและวัสดุต่าง ๆ เพื่อไม่ให้กลับไปเกิดปัญหาของคราบสะสมหนักและการทำความสะอาดแบบธรรมดาที่ต้องใช้เวลานานนั้น ก็คือ การเคลือบผิวด้วยผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษที่เป็นShower protector โดยเฉพาะอย่าง "เอชจี ชาวเวอร์ ชีลด์" สำหรับตู้อาบน้ำและผิววัสดุต่าง ๆ หรือ"เอชจี เคลือบยาแนว" ที่สามารถซึมลึกได้ถึงในระดับรูพรุน โดยทั้งสองมีคุณสมบัติในการป้องกันการยึดเกาะของสารประกอบที่มักจะตกค้าง รวมทั้งความเป็นเบสจากทั้งคราบน้ำหรือคราบสบู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ       ซึ่งนอกจากจะช่วยให้การทำความสะอาดสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพให้พื้นผิวของวัสดุ สามารถสังเกตุเห็นได้ถึงความสะอาดใส หรือมีความแวววาวมากยิ่งขึ้น เมื่อลองมองผ่านกระจกอันเป็นฉากกั้น หรือหัวก๊อกน้ำที่กำลังล้อกับแสงไฟวิบๆวับๆ อยู่ในทุกครั้งที่ต้องเข้าห้องน้ำนั่นเอง
Tips : ท่อห้องน้ำอุดตัน...เพราะมันไม่โล่ง

14 มิถุนายน 2563

Tips : ท่อห้องน้ำอุดตัน...เพราะมันไม่โล่ง
   Tips : ท่อห้องน้ำอุดตัน...เพราะมันไม่โล่งเส้นผม เศษสบู่ คราบไขมัน กระดาษทิชชู่ ฯลฯ ต้นเหตุปัญหาอุดตันของท่อระบายในห้องน้ำ อ่างล้างหน้า ไม่ว่าจะระวังยังไง นานๆไปก็ยังตันอยู่ดีและคงมีกลิ่นเหม็นด้วย แต่ป้องกันไว้ ก็ช่วยได้นะเพียงแค่หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองที่ปากท่อ เก็บเส้นผม เศษสบู่ สิ่งสกปรกต่างๆออก อย่ามักง่ายทิ้งเศษอาหารไม่เลือกที่หรือชักโครกกระดาษทิชชู่กองโตในครั้งเดียว ที่สำคัญอย่าเอาชักโครกเป็นถังขยะ ทั้งผ้าอ้อม ผ้าอนามัย ก็ยังใส่ลงไปด้ายยย !!??  ตันแล้ว ต้องลุยละ!มีหลายเคล็ดลับให้ลอง 1. เบคกิ้งโซดา + น้ำส้มสายชู ตามด้วยน้ำร้อน 1 ลิตร เทลงไป2. เทโค้กหรือเป๊ปซี่ ลงในท่อระบาย รอสัก 15-30 นาที เทน้ำร้อน 1 ลิตร ตามลงไป3. ใช้ “ งูเหล็ก “  ทำมาสารพัดแต่เหมือนยังติดๆขัดๆ ท่อไม่โล่ง นี่เลย เอชจี ลิควิด เดรน อันบล็อกเกอร์ แค่ 30 นาที ที่สำคัญไม่กัดกร่อนท่อท่อโล่งแล้วแต่ยังมีกลิ่นตกค้างหรือมักมีกลิ่นบ่อยๆ จะทนทำไม ใช้นี่ เอชจี กำจัดกลิ่นในท่อระบายน้ำ    
วิทยาศาสตร์กับการ “กำจัดเชื้อรา” (ในห้องน้ำ)

23 เมษายน 2563

วิทยาศาสตร์กับการ “กำจัดเชื้อรา” (ในห้องน้ำ)
วิทยาศาสตร์กับการ “กำจัดเชื้อรา” (ในห้องน้ำ) มีใครเคยรู้บ้างมั้ยว่า “เจ้าราดำเคยคร่าชีวิตเด็กทารก!!!” แม้ว่ามนุษย์เราจะรู้จักกับเจ้าเชื้อ Stachybotrys chartarum หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เชื้อราดำ” มานับตั้งแต่ปี 1837 แล้วก็ตาม (ค้นพบโดย August Carl Joseph Corda นักฟิสิกส์และพฤกษศาสตร์ชาวเช็ก) แต่ใครต่อใครกลับทำเฉยเมย และไม่เคยตื่นตัวถึงความเป็นพิษอันร้ายแรงของมัน จนกระทั่งกาลครั้งหนึ่ง “มันได้คร่าชีวิตของเด็กทารก” หนึ่งในข่าวอันน่าเศร้าดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงปี 1994 ณ เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เมื่อศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ โดย US Center for Disease Control ได้ทำการยืนยัน และประกาศต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการว่า สาเหตุของการมีเลือดออกในปอด (อาการของโรค pulmonary hemosiderosis) ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเด็กวัยแรกเกิดจำนวนหนึ่ง และทวีความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตนั้น ได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นผลมาจากการได้รับสปอร์ของเชื้อราดำ หรือเจ้าของฉายา “toxic black mould” ในระดับที่สูงมาก โดยส่วนใหญ่มักพบตามกำแพง หรือผนังห้องน้ำนั่นเอง โดยในปัจจุบัน ยังมีการตรวจพบกลุ่มของราดำประเภทนี้ได้อีกกว่า 40 สายพันธุ์ ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ดีตามผนังห้องน้ำห้องครัว, วอลเปเปอร์ หรือแม้กระทั่งในอาหาร โดยความเป็นพิษที่เชื้อเหล่านี้สร้างขึ้นมา สามารถส่งผลต่อร่างกายของมนุษย์ได้ตั้งแต่ในระดับของการเป็นภูมิแพ้ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในบางกรณี แม้ว่าลักษณะเฉพาะตัวของมันจะมีอัตราการเติบโตที่ช้า แต่ด้วยความสามารถในการคงทนต่อสภาวะต่างๆ ได้ดี และการมีสปอร์กระจายอยู่โดยรอบตามธรรมชาตินั้น เลยทำให้แนวโน้มการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าว จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยของสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และสาเหตุที่สำคัญที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ความชื้นสูง” เพราะเมื่อพื้นที่ใดๆ เริ่มเกิดปฏิกิริยา และกระบวนการกลั่นตัวของน้ำ อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ของอุณหภูมิ และปริมาณความชื้นในอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จึงอาจส่งผลให้พื้นที่นั้นๆ มีค่าความชื้นที่สูงเกินกว่า 60% ซึ่งหากเป็นบริเวณอับแสง หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวกร่วมด้วยแล้ว ก็นับว่าเป็นการเพียงพอ และต่อยอดให้จุดนั้นๆ ได้กลายเป็นดั่งโรงงานผลิตเชื้อราชั้นดีเลยก็ว่าได้ เราจึงมักพบเจอเจ้าภัยร้ายตัวฉกาจเหล่านี้ ได้ที่บริเวณฝาผนังในห้องครัวหรือห้องน้ำ โดยเฉพาะตามร่องยาแนวที่สามารถสังเหตุเห็นได้เป็นคราบดำๆ หรือหากเข้าขั้นโคม่า ก็อาจเริ่มเห็นเป็นปุยๆ สีเทาดำ และนั่นคือสัญญาณของความพร้อมในการแพร่กระจายเชื้ออย่างสมบูรณ์แล้วนั่นเอง แม้คำตอบของคนส่วนใหญ่ จะมีการแนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชู หรือเบคกิ้งโซดา และในเชิงวิทยาศาสตร์ก็นับได้ว่า เป็นสารเคมีที่มีความเป็นกรดที่สามารถ “ยับยั้ง” (inhibits) การเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ดีเลยทีเดียว แต่การนำมาประยุกต์ใช้เข้ากับพื้นที่แนวตั้ง และลักษณะความพรุนในโครงสร้างของตัวยาแนว (เชื้อราเกิดการสะสมฝังแน่น และกำจัดได้ยากกว่าจุดอื่นๆ) จึงมักได้รับคำแนะนำว่า “ให้ทำซ้ำอีก 2-3 ครั้ง หากผลที่ได้รับยังไม่เป็นที่น่าพอใจ” หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ นอกจากการต้องทนกับกลิ่นฉุนจนชวนเวียนหัวจากสารดังกล่าวแล้ว ยังอาจต้องมาลุ้นอีกครั้งว่า จะได้ผลหรือจะทำให้ราดำกลับมาขึ้นซ้ำได้ในอีกเร็ววันมากน้อยเพียงใดด้วย ฉะนั้น อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนิยมใช้กันเป็นอย่างมากในทางฝั่งยุโรปนั้น* คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารทำความสะอาดกลุ่ม Chlorine bleach ซึ่งเหมาะสำหรับงาน D.I.Y และได้รับการยืนยันว่า สามารถ “ฆ่า” (destroy) เชื้อรา ได้ตั้งแต่ในระดับของสปอร์กันเลยทีเดียว *ความชื้นที่เกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิภายในและนอกอาคาร จึงทำให้บ้านเรือนในแถบนั้น ต้องรับมือพร้อมทั้งแก้ไขปัญหาเชื้อราที่สามารถเกิดขึ้นได้แทบทุกจุด เช่น ขอบหน้าต่าง, วอลเปเปอร์, ชั้นใต้ดิน ฯลฯ) สุดท้ายนี้เราขอฝาก 7 ทริคง่ายๆ เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถจำกัดบริเวณที่อาจมีการสะสมของความชื้น จนอาจนำไปสู่ปัญหาของการเกิดราดำ ดังนี้ 1. เปิดประตูและหน้าต่างให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้แน่ใจว่ามีอากาศถ่ายเทภายในบ้านอย่างเหมาะสม 2. เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาที หลังจากการอาบน้ำ เพื่อเป็นการระบายความชื้นให้ออกสู่ภายนอก 3. หลังจากการอาบน้ำ พยายามเช็ด, เปิดพัดลมดูดอากาศ หรือเป่าด้วยพัดลม ในพื้นที่โซนเปียกของห้องน้ำ 4. พยายามตากผ้าเช็ดตัวให้แห้งหลังจากใช้ เพราะผ้าที่เปียกชุ่มนั้น ย่อมส่งผลต่อระดับความชื้นในห้องน้ำด้วย 5. หมั่นตรวจสอบจุดการรั่วไหลของน้ำในบริเวณรอบๆ (รวมทั้งห้องครัวด้วยนะ) 6. เลือกใช้ยาแนวที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อรา 7. ใช้ HG mould spray หรือผลิตภัณฑ์กำจัดราดำโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการทำความสะอาด และป้องกันการเกิดซ้ำได้อย่างถูกสุขอนามัย 

สมัครสมาชิก

Icon Phone Icon Mail Icon Line
เพิ่มไปยังตะกร้า