Promo code
NewWeb
Shop Now

23 August 2022

HG Tips : ไกด์ทริค 3 วิธี... ดีต่อ “ร่องยาแนว”

HG Tips : ไกด์ทริค 3 วิธี... ดีต่อ “ร่องยาแนว”
  • HG Tips : ไกด์ทริค 3 วิธี... ดีต่อ “ร่องยาแนว” ทั้งในห้องน้ำ และกับห้องครัว เพราะโครงสร้างของยาแนวที่เป็นรูพรุน (porous) สลับชั้นกันอยู่เป็นจำนวนมาก มักส่งผลให้เกิดการดูดซับจากทั้งความชื้น สิ่งสกปรก คราบตะกรัน รวมทั้งคราบน้ำมันหลังการทำครัวอย่างที่หลีกเลี่ยงได้ยากมาก! ซึ่งหากเราทำความสะอาดได้ไม่ดี ก็มักจะก่อให้เกิดคราบสกปรกสะสม หรือในกรณีที่แย่กว่านั้น... ก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา (Mould) ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ในท้ายที่สุดนั่นเอง “ทำไมร่องยาแนวถึงสกปรกง่าย?” เพราะกิจวัตรประจำวันต่างๆ โดยเฉพาะจากการอาบน้ำและการทำครัวนี้เองจึงทำให้ทั้งคราบน้ำ คราบไขมัน หรือคราบสะสมที่เกิดจากการใช้พื้นที่นั้นซ้ำๆ ล้วนยิ่งทำให้ความชื้นสามารถซึมเข้าสู่ร่องยาแนวได้ไม่มากก็น้อย และหากปล่อยทิ้งไว้นานวัน(โดยไม่ได้รับการดูแล) ก็อาจเกิดขึ้นได้ทั้งคราบสกปรก คราบราดำ รวมทั้งสีของยาแนวที่มีความหม่นหมองก่อนเวลาอันควร ซึ่งทั้งหมดนั้น มิได้มีเฉพาะเหตุผลในด้านสุขอนามัยเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้คงไว้ซึ่งความสวยงามด้วยเช่นกัน เราจึงมีเคล็ดลับดีๆสำหรับ “คนรักษ์บ้าน” ที่ช่วยให้การทำความสะอาดยาแนวเป็นเรื่องง่ายๆ และยังส่งผลดีต่อพื้นผิววัสดุได้ในเวลาเดียวกัน... ด้วย 3 เทคนิคง่ายๆดังนี้ 1. การปกป้องร่องยาแนวจากคราบต่างๆ หากเราป้องกันไม่ให้คราบไขมัน สิ่งสกปรก ความชื้น หรือคราบตะกรันต่างๆสามารถแทรกซึมเข้าไปได้ ยาแนวของเราก็จะอยู่ในสภาพที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และไม่เกิดคราบฝังลึก แม้โดยส่วนใหญ่แล้วกูรูมักจะแนะนำให้ถูด้วยเทียนไขลงบนยาแนวเพื่อสร้างชั้นกันน้ำและสิ่งสกปรกต่างๆได้ก็จริงอยู่ แต่วิธีการดังกล่าว ก็อาจมีส่วนให้การเกิดความเสียหายได้ของชั้นโครงสร้างในภายหลังได้เช่นกัน (หากจุดนั้นๆ คราบน้ำสามารถแทรกซึมผ่านเข้าไปได้ จนเกิดการสะสมของความชื้นมากขึ้น แล้วไม่สามารถระบาย ออกได้นั่นเอง) ซึ่งจุดนี้เอง ที่นับว่าเป็นความแตกต่างจากการเคลือบปกป้องด้วย HG super protector สำหรับร่องยาแนวของผนัง และพื้นโดยเฉพาะ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ให้การปกป้องสูงสุดด้วยการสร้างชั้นเคลือบผิว เพื่อป้องกันคราบสกปรกและยังคงคุณสมบัติในการระเหยของความชื้นไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การระบายอากาศที่ดี การระบายอากาศที่ดีก็นับเป็นอีกหัวข้อที่สำคัญ เพราะความชื้นที่แทรกซึมและสะสมอยู่ตามร่องยาแนวเป็นเวลานานๆย่อมเป็นสาเหตุของเกิดเชื้อราดำขึ้นได้นานๆ ย่อมเป็นสาเหตุของเกิดเชื้อราดำขึ้นได้ซึ่งการเปิดประตูทิ้งไว้ แล้วใช้พัดลมเพื่อช่วยให้เกิดการถ่ายเทของอากาศอยู่เป็นประจำ ก็นับว่าเป็นเช็คลิสต์ที่สำคัญในการป้องกันปัญหานี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่หากเกิดคราบราดำ หรือมีการเริ่มกระจายตัวของเชื้อราแล้ว เราแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อราได้ตั้งแต่ในระดับของสปอร์อย่าง “HG โมลด์ สเปรย์” เพื่อการจำกัดพื้นที่และขจัดคราบสะสมที่เป็นหนึ่งใน สาเหตุหนึ่งของโรคทางเดินหายใจที่เป็นอันตราย 3. ทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ การหมั่นทำความสะอาดที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย และสะดวกอย่างสเปรย์ทำความสะอาดหรือการเปลี่ยนน้ำในถังน้ำอยู่เป็นประจำ ก็มีส่วนช่วยป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าซึมลงลึกเข้าไปในร่องยาแนว และทิ้งคราบไว้ดั่งยังมิได้ทำความสะอาดนั่นเองซึ่งการป้องกันไม่ให้ยาแนวสกปรกก่อนเวลาอันควร หรือยากต่อการทำความสะอาด รวมทั้งการทำให้ยาแนวมีรูพรุนน้อยลง แต่ยังคงการระบายอากาศที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงทั้งความหม่นหมอง และสุขอนามัยที่ดี ย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญ... แม้ในจุดเล็กๆ ตามร่องยาแนวก็ตาม รายการผลิตภัณฑ์ HG สำหรับการดูแลร่องยาแนวให้สะอาดอยู่เสมอ – HG เคลือบยาแนว ขนาด 250 มล. - น้ำยาเคลือบกันคราบสกปรกทุกชนิด ไม่ให้ซึมลงร่องยาแนว และช่วย ป้องกันการเกิดราดำ – HG สเปรย์ทำความสะอาดยาแนว ขนาด 500 มล. - ขจัดคราบตามร่องยาแนว คราบฝุ่นฝังแน่น คราบไขมัน – HG บาธรูม โมลด์ สเปรย์ ขนาด 500 มล. - กำจัดคราบเชื้อราและคราบราดำในห้องน้ำ

HG wall and floor grout protector
HG wall and floor grout protector

Makes grout absolutely water, oil, grease and dirt repellent.

฿729 ฿775 6%

BUY NOW
HG mould spray
HG mould spray

The effective mould and mildew cleaner

฿371 ฿395 6%

BUY NOW
HG grout cleaner ready-to-use
HG grout cleaner ready-to-use

Removes stubborn dirt from grout between wall and floor tiles.

฿249 ฿265 6%

BUY NOW

Read More

ปัญหาคาใจ “ทำ ไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรก ง๊าย ง่าย”

20 November 2020

ปัญหาคาใจ “ทำ ไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรก ง๊าย ง่าย”
     “เอชจี มีครบ”จบปัญหาคาใจ“ทำไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรกง๊ายง่าย” 1. “คราบน้ำ -คราบสบู่” ที่เกาะแน่นติดกระจกและวัสดุต่างๆ 2. “คราบราดา” ที่เกิดขึ้นช้า ๆ ตามรองยาแนวและแนวซิลิโคน 3. ยังขัดล้างไปไมทันไร...ก็กลับเข้าวังวนนี้ใหม่ทั้งในข้อ 1 และข้อ 2
ซึ่งนั้นหาใช่เรื่องทีดูผิดแปลกแต่อย่างใด เพราะ...“หากการดูแลผิวพรรณที่ดี...มิได้จบลงเพียงแค่การ ฟอกสบู่ อยู่เช่นใด...ในเรื่องของ “ตู้อาบ
น้ำ” ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น! ”  1. “คราบนํ้า -คราบสบู่”  สู่การขจัดคราบในระดับรูพรุนแม้จะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าเจ้าคราบต่าง ๆ อันเกิดขึ้นได้จากทั้งการตกค้างการสะสมและการหมักหมมอยู่เป็นเวลานาน(บ้างทิ้งไว้เป็นสัปดาห์ บ้างก็ว่าเกือบแรมเดือน) จนมันระเหยแหงติดกับพื้นผิวของวัสดุอยู่ซ้ำ ๆ ยอมส่งผลให้สารประกอบทางเคมีที่ไม่ชอบน้ำบางชนิด เข้าไปติดลึกสะสมได้ถึงในระดับรูพรุน (porous) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การทำความสะอาดแบบที่เรียกว่า Deepcleaning นั้นอาจต้องถูกทำกันแบบซ้ำ ๆ วนอยูอยางนั้นหลายๆรอบ จึงจะสามารถลอกออก หรือขจัดคราบสกปรกเหล่านั้นได้อย่างหมดจด (สามารถสังเกตุเห็นได้จากคราบสบู่จนขึ้นฝ้าตามกระจกอาบนํ้าหรือแม้กระทั่งจากคราบขาวหินปูนที่บริเวณของหัวก๊อกนํ้านั่นเอง)       ดังนั้นการขจัดคราบต่าง ๆ ตามลักษณะที่ปรากฏ ตั้งแต่คราบท่ียังดูอ่อน ๆ จนกระทั่งคราบมีการติดสะสมฝังแน่นด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับระดับความเข้มข้น (ผสมกับนํ้าเปล่า)อย่าง“เอชจีบลู” นั้นนอกจากจะช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ได้อย่างหมดจดแบบตรงจุดได้แล้วยังมีคุณสมบัติในการไม่ไปทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนอีกด้วย (ซึ้งนํ้ายาทั่วไปอาจมีความรุนแรงจนไปทำลายในจุดนี้ได้) ส่วนบ้านใดที่มีการทำความสะอาด และดูแลสุขอนามัยภายในห้องนํ้าอย่างเป็นประจำอยู่แล้วการใช้งานร่วมกับ “เอชจี สเกล อะเวย์ ” ก็นับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะด้วยคุณสมบัติเฉพาะแบบโฟมสเปรย์นี่เอง ซึ่งนอกจากการใช้งานที่สะดวกแล้วยังเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับพื้นที่ในแนวตั้ง (ตัวผนังหรือตู้อาบนํ้า ) ทั้ง ยังเป็นเหตุผลสำคัญของการช่วยลดคราบหนักสะสมท่ีอาจเกิดข้ึนได้เป็นอย่างดีอีกด้วยและนับได้ว่าทั้ง 2 ตัวนี้ สามารถจัดเปนชุดพื้นฐานให้กับการทำความสะอาดคราบนํ้า คราบสบู่หรือคราบหินปูนต่าง ๆ ภายในห้องนํ้า โดยเฉพาะกับตู้อาบนํ้าและสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ในระดับของคราบที่ขจัดออกได้ยากนั่นเอง “เอชจี บลู”      + มีความเข้มข้นสูง (ผสมน้ำในอัตตราส่วน 1 ต่อ 10 )      + หากเจอคราบหนัก สามารถเพิ่มระดับความเข้มข้นได้ตามลักษณะของคราบที่ปรากฏ      + ใช้ได้กับทั้งคราบ คราบน้ำ คราบหินปูน คราบเหลืองสุขภัณฑ์      + ไม่ทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนของตูอ้าบน้ำ “เอชจี สเกล อะเวย์” + ด้วยขวดแบบสเปรย์ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ       + ด้วยคุณสมบัติของโฟมสเปรย์ จึงเหมาะกับพื้นท่ีในแนวตั้งอย่างแนวผนังหรือตู้อาบน้ำ + ช่วยลดการสะสมของคราบหนักได้เป็นอย่างดี       + ไม่ทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนของตูอ้าบน้ำ 2. “คราบราดำ” ภัยเงียบสุดสำคัญที่มักสะสมอยู่ตามร่องยาแนวและแนวซิลิโคน       จากข้อมูลทางการศึกษาเคยมีการตรวจพบว่า มีเจ้า "เชื้อราดำ" จำนวนรวมกว่า 40 สายพันธุ์บนโลกซึ่งนอกจากจะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ทั้งตามผนังห้องน้ำ ร่องยาแนว หรือตามห้องครัวแล้วยังพบว่าะวกมันมีการแพร่กระจายของสปอร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Toxic Black Mould" อันนับเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในบางกรณีได้เลยทีเดียว       จึงทำให้ในวงการขจัดคราบราดำในกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะในฝั่งของทางยุโรปที่พบเจอเชื้อราในกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำนั้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารในกลุ่ม Chlorine bleach หรือ"เอชจี โมลด์ สเปรย์" ซึ่งมีฤทธิ์ในการ "ฆ่า" (destoy) กลุ่มเชื้อราดังกล่าวได้ถึงในระดับของสปอร์ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้เพียงน้ำส้มสายชู หรือ เบคกิ้งโซดา เพราะจากการทดสอบของสารทั้งสองชนิดนี้กลับมีคุณสมบัติเพียงแค่การ "ยับยั้ง" (Inhibits) การแพร่กระจายของเจ้าเชื้อราดำเท่านั้นเอง 3. ยังขัดล้างไปไม่ทันไร...ก็กลับเข้าวังวลนี้ใหม่อีกแล้วหรอเนี๊ยยย!!!       หากเปรียบความหมองคล้ำ-คราบไคล เป็นดั่งคราบน้ำ-คราบสบู่ หรือการเกิดสิว ขึ้นฝ้าคล้ายดั่ง คราบหินปูนสะสม ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่เกิดจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ สะสม จนอาจเกิดการอุดตันฝังแน่นอยู่ในรูขุมขน (รูพรุน) ที่ยากจะดูแลได้       "หากการดูแลผิวพรรณที่ดี...มิได้จบลงเพียงแค่การฟอกสบู่ อยู่เช่นใด...ในเรื่องของ"ตู้อาบน้ำ"ก็คงเป็นเช่นนั้น!" จึงนับเป็นประโยคโปรยจากข้างต้น และดูตรงกับการนำไปสู่คำตอบสุดท้ายของในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การทาด้วยครีมโลชั่น หรือ "การเคลือบผิวให้กับวัสดุ"       เพราะไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการตกหล่น หรือการละเลยในขั้นตอนนี้ไปมากน้อยเพียงใดก็ย่อมส่งผลต่อพื้นผิวของวัสดุนั้น ๆ ให้กลับมาเป็นแหล่งสะสมของคราบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในบริเวณของตู้อาบน้ำ ผนังฉากกั้น หรือร่องยาแนวต่างๆ       ดังนั้น การปกป้องผิวพรรณให้กับตู้อาบน้ำและวัสดุต่าง ๆ เพื่อไม่ให้กลับไปเกิดปัญหาของคราบสะสมหนักและการทำความสะอาดแบบธรรมดาที่ต้องใช้เวลานานนั้น ก็คือ การเคลือบผิวด้วยผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษที่เป็นShower protector โดยเฉพาะอย่าง "เอชจี ชาวเวอร์ ชีลด์" สำหรับตู้อาบน้ำและผิววัสดุต่าง ๆ หรือ"เอชจี เคลือบยาแนว" ที่สามารถซึมลึกได้ถึงในระดับรูพรุน โดยทั้งสองมีคุณสมบัติในการป้องกันการยึดเกาะของสารประกอบที่มักจะตกค้าง รวมทั้งความเป็นเบสจากทั้งคราบน้ำหรือคราบสบู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ       ซึ่งนอกจากจะช่วยให้การทำความสะอาดสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพให้พื้นผิวของวัสดุ สามารถสังเกตุเห็นได้ถึงความสะอาดใส หรือมีความแวววาวมากยิ่งขึ้น เมื่อลองมองผ่านกระจกอันเป็นฉากกั้น หรือหัวก๊อกน้ำที่กำลังล้อกับแสงไฟวิบๆวับๆ อยู่ในทุกครั้งที่ต้องเข้าห้องน้ำนั่นเอง
Concrete dust removal | Best tips for how to remove cement dust

02 October 2020

Concrete dust removal | Best tips for how to remove cement dust
Removing cement dust from, for example, ceramic or cement tiles can be a difficult task. Cement dust is created when you apply grout to floor or wall tiles, because a thin layer always remains. This leaves a dull layer on the new floor or wall. We have a few tips for concrete dust removal and effective ways to prevent it. * What is the best way to remove cement dust? * Three good ways for cleaning concrete dust * HG is thé cement dust removal solution * What is the best way to remove cement dust? It is important to clean cement dust off of tiles as quickly as possible, because the longer you leave it, the more difficult concrete dust removal becomes.

Clean up concrete dust immediately using lukewarm water and a small sponge. 
 Three good ways for cleaning concrete dust You can find quite a few tips for concrete dust removal on various forums that you might want to try. 1. Tea towel
When the cement dust is still quite fresh you can try cleaning the concrete dust with a tea towel. Rub the surface of the tiles quite hard with a dry tea towel. This may remove the cement dust, but it is rather hard work and also takes quite a long time. 2. Scrapers
You can also try scraping tools. You must be very careful not to damage the tiles if you choose this method of concrete dust removal. 3. Vinegar mixture
Mix equal parts of vinegar and water (50/50). This acidic mixture works well for cleaning concrete dust. This mixture can damage your tiles, so we recommend that you test it on a surplus tile first. Also be cautious with acids on marble and other calciferous natural stone. Consult an expert for advice if necessary. Do you prefer a safer, easier and less time-consuming concrete dust removal method? Then try one of the HG solutions developed especially for concrete dust removal.
 HG is thé cement dust removal solution HG has various products in the assortment for safe cement dust removal from many different surfaces. Is the cement dust on marble or other calciferous natural stone, concrete or epoxy tiles containing natural stone, such as granite or marble composite? Then use HG natural stone cement & lime film remover (HG product 31).

We also have HG cement grout film remover (HG product 11) in our assortment for removing cement dust from all types of porous and non-porous ceramic tiles and flagstones. It is also suitable for cleaning concrete dust on non-calciferous natural-stone types, such as Norwegian slate, granite and quartzite. The unique aspect of this product is that it dissolves cement from the tile surface but not the cement from the grouting. The grout is even strengthened.

Is it stubborn cement and mortar dust on porous and non-porous tiles? Then we advise HG cement, mortar & efflorescence remover (HG product 12). It is also suitable for non-calciferous natural stone.
ปัญหาตาม “ร่องยาแนว” อันเป็นหนึ่งในเรื่องของพื้นบ้านสุดกวนใจ

19 May 2020

ปัญหาตาม “ร่องยาแนว” อันเป็นหนึ่งในเรื่องของพื้นบ้านสุดกวนใจ
ถ้ารักพื้นบ้านกันจริง ก็อย่าเผลอทิ้งเรื่อง “เคลือบยาแนว” ใครๆ หลายคนอาจจะมาถูกทาง ในการสะสางปัญหาตาม “ร่องยาแนว” อันเป็นหนึ่งในเรื่องของพื้นบ้านสุดกวนใจ ด้วยการเลือกใช้ปูนยาแนวที่มีส่วนผสมของสารป้องกันเชื้อรากันมาบ้างแล้วก็จริงอยู่ แต่เคยรู้มั้ยว่า... ทำไม๊! ยังมีเจ้าเชื้อราโผล่มาให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ หนำซ้ำยังกลับทำความสะอาดได้ยากขึ้นซะอีกงั้นล่ะ? และเพื่อเป็นการคลายสงสัย เราขอย้อนกลับไปในปี 2011 โดยสถาบัน Swedish Chemical Inspectorate ได้ทำการทดสอบการป้องกันเชื้อรา และกลิ่นเหม็นอับชื้นบนเสื้อผ้า ด้วยการเติมแต่งสารในกลุ่ม Silver based* ลงไป และทดลองทำการซักล้าง (*โดยเฉพาะกับชนิดที่เราคุ้นหูกันดีที่ใช้เป็นส่วนประกอบในผงซักฟอกชื่อ Silver-Nano และยังนับเป็นสารกลุ่มเดียวกับที่อยู่ในปูนยาแนวสูตรป้องกันเชื้อราอีกด้วย) ผลปรากฎว่า หลังจากเสื้อผ้าเหล่านั้น ผ่านการซักไปเพียงแค่ 3 ครั้ง ก็กลับสามารถชะล้างสารดังกล่าวออกไปได้มากกว่า 43% และจะถูกชะล้างได้สูงสุดกว่า 98% เมื่อผ่านการซักล้างหลังในครั้งที่ 10 เป็นต้นไปเลยทีเดียว ซึ่งยังนับว่า เป็นผลที่สอดคล้องกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งในปี 2008 ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า สารที่ถูกผสมไว้ในปูนยาแนวอย่าง silver zeolite นั้น ก็สามารถถูกชะล้างได้ตามกาลเวลาไปเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการใช้งาน และทำความสะอาดอยู่เป็นประจำทั้งในโซนของห้องน้ำ และห้องครัว จึงทำให้ทั้งคราบไขมัน หรือสิ่งสกปรกหลังการชำระล้าง ซึ่งนับเป็นแหล่งอาหารอันโอชะของเจ้าเชื้อรานั้น สามารถฝังตัวอยู่บนร่องยาแนวได้มากขึ้น โดยปราศจากสารยับยั้งที่มีอยู่ในยาแนวแล้วนั่นเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญ... ให้การดูแลร่องยาแนวตามแบบฉบับกูรูทางต่างประเทศ จึงนิยมใส่ขั้นตอนของการดูแลร่องยาแนวที่ดีที่สุด ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ “เคลือบยาแนว**” เข้าไปด้วย เพื่อช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ทั้งจากคราบสะสมฝังแน่น อันเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา หรืออาการหนักจนถึงขึ้นเกิดการหลุดร่อน และอาจทำให้พื้นบ้านมีการผุพังได้เลยทีเดียว (**เหมาะสำหรับชนิดที่เป็นปูนยาแนว) รู้ยังงี้แล้วใคร... ถ้ารักพื้นบ้านกันจริง ก็อย่าเผลอทิ้งเรื่อง “เคลือบยาแนว” กันเชียวนะ

BECOME A MEMBER

Icon Phone Icon Mail Icon Line
Add to Cart